การเลี้ยงเป็ดโป๊ยฉ่าย
พันธุ์และการผสมพันธุ์
เป็ดโป๊ยฉ่ายเป็นเป็ดที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างเป็ดเทศตัวผู้กับเป็ดพันธุ์ไข่ หรือพันธุ์เนื้อทั่วๆ ไป ลูกผสมที่เกิดมาจะเป็นหมัน ไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ เนื่องจากว่าเป็ดเทศและเป็ดพันธุ์ไข่หรือเป็ดพันธุ์เนื้อทั่วๆ ไป เป็นคนละสกุล (genus) จึงมีจำนวนโครโมโซมไม่เท่ากัน ลูกผสมที่ได้จึงเป็นหมันไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ แต่เหมาะที่จะเป็นเป็ดเนื้อเพราะว่าลูกผสมมีการเจริญเติบโตสูงกว่าเป็ดพื้นเมือง หรือเป็ดพันธุ์ไข่ทั่วๆ ไป สำหรับเป็ดเทศพันธุ์แท้ๆ นั้น ตัวของมันเองมีการเจริญเติบโตสูงแต่มีข้อจำกัดคือ ตัวเมียมีไข่ไม่มากปีละ 60-70 ฟอง ไม่เหมาะที่จะทำเป็นกิจการใหญ่โต หรือทำเป็นการค้าแต่ว่าถ้าใช้เป็ดเทศเป็นสายพ่อพันธุ์ และใช้แม่พันธุ์พื้นเมืองของเราแล้วจะผลิตลูกผสมออกได้พอกับความต้องการของตลาดได้เป็ดโป๊ยฉ่าย (Mule Duck) ในประเทศไทยเรามีการผลิตและเลี้ยงกันมาก่อนตั้งแต่นมนานมาแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการผลิตและผสมพันธุ์โดยชาวจีน เพราะการเลี้ยงเป็ดโป๊ยฉ่ายเป็นเทคโนโลยีของชาวจีนแผ่นดินใหญ่มาตั้งแต่โบราณเป็นพันปีมาแล้ว การเลี้ยงเป็ดโป๊ยฉ่ายในบ้านเราก็อยู่ในแถบจังหวัดนครปฐม อ่างทอง สิงห์บุรี สมุทรสงคราม และสมุทรปราการ โดยเฉพาะแถบจังหวัดนครปฐมจะมีมากกว่าจังหวัดอื่นๆ แต่การผลิตลูกยังมีข้อจำกัด เพราะยังไม่ทราบเทคนิคการผลิต และการเลี้ยงดูที่ถูกวิธี โดยเฉพาะวิธีผสมเทียมยังไม่ได้นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย ข้อกำจัดนี้จะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถผลิตลูกเป็ดโป๊ยฉ่ายได้มากตามความต้องการทั้งนี้ เพราะว่าการผสมพันธุ์ระหว่างเป็ดเทศตัวผู้กับตัวเมียเป็นไปด้วยความลำบาก การผสมติดต่ำ เพราะว่าเป็ดเทศพ่อพันธุ์มีขนาดและน้ำหนักใหญ่กว่าตัวเมีย ถึง 45-50% ทำให้การขึ้นผสมของตัวผู้ลำบาก จึงทำให้การผสมติดต่ำ ถ้าหากได้มีการนำวิธีการผสมเทียมมาใช้จะสะดวกรวดเร็ว และขยายพันธุ์ได้มากเป็นหมื่น เป็นแสนๆ หรือล้านตัวก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในจีน ไต้หวัน เขาผลิตเป็ดโป๊ยฉ่ายโดยการผสมพันธุ์เป็น 3 สายพันธุ์ ขั้นแรกเราจะผลิตเป็น 2 สายพันธุ์ ระหว่างพ่อพันธุ์เป็ดปักกิ่งผสมกับเป็ดพื้นเมืองพันธุ์ไข่ ชื่อ ไชยา ก่อนแล้วใช้เป็ด 2 สายพันธุ์นี้เป็นฝ่ายแม่ เพื่อผสมกับเป็ดเทศสีขาวตัวผู้ ลูกที่เกิดมาจะเป็ดเป็ดโป๊ยฉ่ายขนสีขาว และนำไปเลี้ยงเป็นเป็ดเนื้อ และขายขนไปพร้อมๆ กัน
ต่อไปนี้จะเป็นแผนการผสมพันธุ์ และลักษณะการเจริญเติบโตประสิทธิภาพการใช้อาหารของเป็ดโป๊ยฉ่ายใต้หวัน
แสดงการเจริญเติบโต ปริมาณอาหารที่กิน ประสิทธิภาพการใช้อาหารของเป็ดโป๊ยฉ่ายของจีน ไต้หวัน เป็นลูกผสม 2 สาย และ 3 สายพันธุ์
การเจริญเติบโต ปริมาณอาหารที่กินต่อวัน และต่อสัปดาห์ของเป็ดโป๊ยฉ่ายที่เกิดจากการผสมของเป็ดเทศสีขาว และเป็ดปักกิ่งของกรมปศุสัตว์ ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ สุราษฏร์ธานี
เป็นเป็ดโป๊ยฉ่ายของศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์สุราษฎร์ธานี ที่ทำการผสมระหว่างเป็ดเทศพ่อพันธุ์สีขาวกับเป็ดปักกิ่งของกรมปศุสัตว์ เมื่อปี พ.ศ. 2532 โดยทำการเลี้ยงด้วยอาหารผสมชนิดผงมีโปรตีน 18% เมื่ออายุ 0-4 สัปดาห์ แล้วจึงเปลี่ยนเป็นอาหารชนิดเดียวกัน แต่มีโปรตีน 16% เมื่ออายุ 5-10 สัปดาห์ จากข้อมูลผลการทดลองดังกล่าวข้างต้น และเห็นว่าเป็ดโป๊ยฉ่ายของกรมปศุสัตว์มีศักยภาพที่จะทำการพัฒนาไปได้อีกมาก โดยตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะส่งตลาดได้ภายในอายุต่ำกว่า หรือเท่ากับ 8 สัปดาห์ เพราะว่าเมื่อเป็ดโป๊ยฉ่ายพันธุ์นี้มีอายุระหว่าง 9-10 สัปดาห์ เป็ดจะกินอาหารมากแต่มีอัตราการเจริญเติบโตต่ำ ถ้าพัฒนาพันธุ์ให้สามารถส่งตลาดได้ภายในเวลา 8 สัปดาห์ แล้วจะได้กำไรมากอันเนื่องมาจากเป็ดกินอาหารน้อยแต่ได้น้ำหนักมาก การวิจัยและพัฒนาควรจะเน้นในด้านเพิ่มปริมาณเนื้อแดงให้มากขึ้นแทนการเพิ่มโครงกระดูก หรือไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งขณะนี้กรมปศุสัตว์กำลังทำการวิจัยและพัฒนาพันธุ์เป็ดชนิดนี้อยู่ หากเกษตรกรมีความสนใจต้องการนำพันธุ์และวิธีการผลิตลูกเป็ดโป๊ยฉ่ายกรมปศุสัตว์ โดยกลุ่มงานสัตว์ปีก กองบำรุงพันธุ์สัตว์ ยินดีที่จะให้การสนับสนุนด้านพันธุ์และวิชาการแนะนำ
ต่อไปนี้เป็นข้อมูลต้นทุนการผลิตเป็ดพันธุ์เนื้อของเกษตรกรของประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2532 จะเห็นว่าต้นทุนการผลิตเป็ดพันธุ์เนื้อ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นค้าลูกเป็ด โดยเฉพาะเป็ดพันธุ์ปักกิ่ง และเป็ดโป๊ยฉ่าย อย่างไรก็ดีเป็ดโป๊ยฉ่ายยังกำไรให้สูงกว่าเป็ดพันธุ์ปักกิ่ง ทั้งนี้เพราะต้นทุนค่าอาหารต่ำกว่าเป็ดปักกิ่ง
ต้นทุนการผลิตเป็ดเนื้อพันธุ์ปักกิ่ง ลูกผสมพื้นเมืองและเป็ดโป๊ยฉ่ายของประเทศไทย ปี 2532
http://www.baanjomyut.com/